WELCOME

ขอต้อนรับทุกท่านครับ
วันนี้ผมอยากจะบันทึกสิ่งต่าง ๆที่ได้รับรู้รับทราบเอาไว้ เผื่อจะได้ทบทวนความจำ
และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆที่มีความสนใจในเรื่องราวที่เกี่ยวกับการบริหาร
แต่อย่าคาดหวังอะไรจากบลอกของผมนะครับ เพราะไม่ได้มุ่งหวังจะให้เป็นแหล่งอ้างอิงในทางวิชาการ เผลอๆ ไม่รู้ว่าที่พูดไปเขียนไปจะผิดถูกแค่ไหนก็ไม่อาจรับประกันได้
เอาเป็นว่าแค่เอาไว้แลกเปลี่ยนกันก็แล้วกันนะครับ

วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2550

บันได 7 ขั้นของ ไบรอัน เทรซี่

บันได 7 ขั้นของการคิดบนกระดาษเพื่อความสำเร็จ

ไบรอัน เทรซี่ หนึ่งในต้นตำรับแห่งผู้นำของสหรัฐอเมริกาในการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ผู้ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานทางด้านการขายและการตลาด ด้านการลงทุน และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นเจ้าของหนังสือขายดีที่ถูกแปล 20 ภาษาและใช้ใน 38 ประเทศอย่างเรื่อง “ความสำเร็จขั้นสูงสุด” (Maximum Achievement)
ไบรอันได้แนะนำในหนังสือ “กินกบตัว นั้นซะ” (Eat that frog !) ไว้ว่า ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่ากบตัวไหนเป็น “กบ” ของคุณและลงมือกินมัน คุณต้องตัดสินใจให้ได้ก่อนว่า อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการเอาชนะในแต่ละแง่มุมของชีวิตคุณ คุณยิ่งชัดเจนในสิ่งที่ต้องการ และสิ่งที่ต้องทำมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งง่ายขึ้นมากเท่านั้นที่คุณจะเอาชนะนิสัยชอบผัดวันประกันพรุ่ง
เหตุผลสำคัญในการผัดวันประกันพรุ่งและการขาดแรงบันดาลใจคือความคลุมเครือ ความสับสน และความเลื่อนลอยว่าคุณควรต้องทำอะไร ทำอย่างไร และทำเพื่ออะไร
ไบรอันบอกว่า กฎอันยิ่งใหญ่สู่ความสำเร็จคือการคิดบนกระดาษโดยตัดสินใจให้แน่นอนว่าคุณต้องการอะไร ความชัดเจนเป็นเรื่องสำคัญ เขียนเป้าหมายและจุดประสงค์ของคุณขึ้นมาก่อนที่คุณจะเริ่มลงมือ หลังจากนั้นปฏิบัติตามเป้าหมายที่เขียนไว้ด้วยวิธีบันได 7 ขั้นแบบง่ายๆ ดังนี้
บันไดขั้นที่หนึ่ง : ตัดสินใจให้แน่ชัดว่า คุณต้องการอะไร อาจจะตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง หรือนั่งปรึกษาหารือกับเจ้านายถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของคุณ จนกว่าคุณจะเข้าใจชัดเจนว่า พวกเขาคาดหวังอะไรจากคุณและอะไรต้องมาก่อนมาหลัง เพราะปัจจุบันพบมากว่ามีการใช้เวลาอย่างไร้ค่าที่สุด คือการทำอะไรบางอย่างได้ดีมากแต่เป็นอะไรบางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องทำสักนิด
บันไดขั้นที่สอง : จดหรือเขียนไว้บนกระดาษ เวลาที่คุณเขียนเป้าหมายของคุณเป็นลายลักษณ์อักษร มันหมายความว่าคุณกำลังทำให้มันกลายเป็นรูปธรรมขึ้นมา สร้างสิ่งที่สัมผัสและมองเห็นได้ เป้าหมายที่ไม่ได้เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเพียงความเพ้อฝันเท่านั้น
บันไดขั้นที่สาม : กำหนดขีดเส้นตายให้กับเป้าหมายของคุณ เป้าหมายหรือการตัดสินใจที่ปราศจากการกำหนดขีดเส้นตายจะไร้ซึ่งความร้อนรน จะไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดจบที่แท้จริง ทำให้เกิดการผัดวันประกันพรุ่งและทำงานได้น้อยมาก
บันไดขั้นที่สี่ : ทำรายการทุกอย่างที่คุณคิดว่าคุณต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เมื่อคุณคิดถึงกิจกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาได้จงเขียนเพิ่มเติมเข้าไป สร้างรายการของคุณขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมันเสร็จสมบูรณ์ รายการที่ทำขึ้นจะทำให้มองเห็นภาพของงานหรือของจุดประสงค์ที่ใหญ่กว่า ช่วยให้คุณเห็นแนวทางในการลงมือและยังช่วยเพิ่มแนวโน้มว่าจะบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการและตรงตามกำหนดเวลาอีกด้วย
บันไดขั้นที่ห้า : เรียบเรียงรายการให้เป็นแผนการ ตามลำดับความสำคัญและลำดับเหตุการณ์ และจะดียิ่งขึ้นถ้าคุณวาดแผนการของคุณด้วยการตีกรอบหรือวงกลมรายการต่างๆ บนแผ่นกระดาษ
บันไดขั้นที่หก : ลงมือทำตามแผนการโดยทันที จงทำอะไรสักอย่างทำอะไรก็ได้ แผนการธรรมดาทั่วไปที่ได้รับการลงมือปฏิบัติอย่างขยันขันแข็ง ย่อมดีกว่าแผนการชั้นเยี่ยมที่ไม่มีการลงมือทำอะไรเลย
บันไดขั้นที่เจ็ด : ตั้งปณิธานว่าทุกๆ วันจะต้องทำอะไรบางอย่างที่จะพาคุณมุ่งตรงไปสู่เป้าหมายหลัก อ่านหัวข้อสำคัญให้ได้ตามจำนวนหน้าที่กำหนดไว้ เช่น โทรไปหาลูกค้าหรือว่าที่ลูกค้าตามจำนวนที่กำหนด เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ในภาษาต่างประเทศให้ได้ตามจำนวนที่กำหนด เป็นต้น
เพราะ “เวลา” เป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดใน 1 วันมีเพียง 24 ชั่วโมง แต่ทุกๆ คนต่างมีทรัพยากรนี้อย่างเท่าเทียมกัน เพียงแต่ว่าใครจะรู้จักจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของตัวเองอย่างไร
ที่มา
ดนัย จันทร์เจ้าฉาย [28-9-2002]
จากบทความ “ ความสำเร็จอยู่ที่นี่ ”
http://www.businessthai.co.th/content.php?data=404055_Opinion

ไม่มีความคิดเห็น: