WELCOME

ขอต้อนรับทุกท่านครับ
วันนี้ผมอยากจะบันทึกสิ่งต่าง ๆที่ได้รับรู้รับทราบเอาไว้ เผื่อจะได้ทบทวนความจำ
และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆที่มีความสนใจในเรื่องราวที่เกี่ยวกับการบริหาร
แต่อย่าคาดหวังอะไรจากบลอกของผมนะครับ เพราะไม่ได้มุ่งหวังจะให้เป็นแหล่งอ้างอิงในทางวิชาการ เผลอๆ ไม่รู้ว่าที่พูดไปเขียนไปจะผิดถูกแค่ไหนก็ไม่อาจรับประกันได้
เอาเป็นว่าแค่เอาไว้แลกเปลี่ยนกันก็แล้วกันนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552

โรงเรียนดี เด่น ดัง

โรงเรียนดี เด่น ดัง

เจ้าของบทความนี้ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่โรงเรียน ดี เด่น ดัง แห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาของรัฐบาลในต่างจังหวัด เป็น โรงเรียนที่ผู้ปกครองนิยมส่งลูกหลานเข้ามาเรียนกันมาก เนื่องจากมีชื่อเสียงในการส่งนักเรียนเข้าประกวดแข่งขันทั้งในระดับประเทศ และต่างประเทศ นอกจากนั้นนักเรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถสอบเข้าเรียนต่อในชั้น มอ 1 โรงเรียนประจำจังหวัดได้ยกชั้น ได้รับงบสนับสนุนจากภาคเอกชนจำนวนมาก จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บริหารและคณะครูพบว่าความสำเร็จดังกล่าวมาจากปัจจัย หลัก 3 ปัจจัย หรือ เรียกว่า ปัจจัย 3 ธรรม ดังนี้ ครับ
1. วัฒนธรรมขององค์กร โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่มีวัฒนธรรมเรื่องการเรียนการสอนมาเนิ่นนาน วัฒนธรรมดังกล่าว เกิดจากคณะครูและผู้บริหารในโรงเรียนได้ร่วมกันสร้างขึ้นมา
2. คุณธรรมของผู้บริหารโรงเรียน การคัดเลือกผู้บริหารที่โรงเรียนนี้ จะคัดเลือกจากผู้บริหารที่มีคุณธรรมสูง โดยศึกษาจากประวัติส่วนตัวและประวัติการรับราชการที่ผ่านมา จะไม่เอา “ใครก็ได้” มาเป็นผู้บริหารโรงเรียนนี้
3. จริยธรรมของครูผู้สอน ครูทุกคนในโรงเรียนจะทุ่มเทให้กับการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ ใครไม่ทุ่มเทก็จะรู้สึก “แปลกแยก” ไปเอง ท่านรองฯ ที่รับผิดชอบงานวิชากาสร บอกว่า ที่โรงเรียนนี้ จะนิเทศโดยไม่ต้องนิเทศ คือ คุณครูทุกท่านจะรู้ตัวเอง ว่าหย่อนตรงใหน ควรจะพัฒนาอย่างไร
เรื่องที่ประทับใจอีกเรื่องของโรงเรียนนี้ คือ คณะครูจะไม่แบ่งพรรค แบ่งพวก เนื่องจากเป็นคณะครูที่มีวุฒิภาวะสูง และ ไม่มีเวลาว่างที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์คนนั้นคนนี้
ที่นี้ ลองกลับมามองมุมตรงข้ามกันบ้างครับ โรงเรียนที่ 3 ธรรม อ่อนแอ ก็จะมีลักษณะ ดังนี้ ครับ
1. วัฒนธรรมขององค์กรอ่อนแอ โรงเรียนที่มีวัฒนธรรมของความไม่เสมอภาค ความไม่เป็นธรรม อันเกิดจาก “อคติ” ของผู้บริหาร โรงเรียนนี้ก็จะเป็นโรงเรียนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของการแก่งแย่งชิงดี เป็นโรงเรียน “ปราบเซียน” นั่นคือ ทั้ง ผู้บริหาร หรือ คุณครูท่านใดที่ย้ายเข้าไป ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก
2. คุณธรรมของผู้บริหารโรงเรียนอ่อนแอ ผู้บริหารที่คุณธรรมอ่อนแอ เข้าไปอยู่โรงเรียนใหนก็พังทั้งระบบครับ ที่น่าเป็นห่วงและน่าเสียดายมากที่สุด คือ โรงเรียนดีๆ ที่เขามีวัฒนธรรรมอันดีงามเรื่องการเรียนการสอน พอย้ายผู้บริหารที่คุณธรรมอ่อนแอเข้าไปอยู่ จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเร็วมากครับ แค่ปีแรก ความเปลี่ยนแปลงในทางลบก็เริ่มเห็น ปีต่อๆมาก็ไม่ต้องพูดถึงครับ สาละวันเตี้ยลง
3. จริยธรรมของครูผู้สอนอ่อนแอ ข้อ 1 กับ ข้อ 2 มันโยงมาถึงข้อ 3 ครับ ธรรมดาของคนก็เหมือนน้ำครับ คือ พร้อมที่จะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ดังนั้น ถ้าครูในสภาพปกติ มีสิ่งแวดล้อมของการแก่งแย่งชิงดี ก็พร้อมที่จะเข้าไปแก่งแย่งชิงดีกับเขาด้วย และในสภาพดังกล่าว “ครูดีๆมีอุดมการณ์” เขาจะไม่เข้าไปคลุกด้วยครับ ยังคงทุ่มเทให้กับการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่ามีความรู้สึก “ท้อ ถอย เบื่อหน่าย และ ปลง” บ้าง ในบางครั้ง คุณครูประเภทนี้มักจะเป็นครูดีที่ถูกลืมครับ
ทั้งหมดนี่ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเจ้าของบทความนะครับ เป็นเพียงมุมมองหนึ่งในวงแคบๆเท่านั้นเอง ถ้าไม่ถูกต้อง หรือ ไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยด้วยครับ
ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น: